Trolltunga



Trolltunga



                     Trolltunga เป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามโดดเด่นและมีความหวาดเสียวมากที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นแผ่นหินที่ยื่นออกมากลางอากาศสูงเหนือจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร โดยที่เบื้องล่างของหน้าผาแห่งนี้คือทะเลสาบ Ringedalsvatnet ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีสีฟ้าสวยใสราวกับคริสตัล เส้นทางนี้จะสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวได้ในช่วงระหว่างกลางเดือนมิถุนายน-กลางเดือนกันยายน ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ระยะทางไป-กลับประมาณ 23 กิโลเมตร ใครสายผจญภัยก็จัดกันไปเลย


1. ทำความรู้จักกับ Trolltunga
       - Trolltunga เป็นภาษานอร์เวย์ แปลว่า “ลิ้นของโทรลล์” (Troll’s Tongue) ตามลักษณะที่เป็นแผ่นหินบางชี้ยื่นออกมาจากผา ที่ความสูง 2,300 ฟุต (700 เมตร) เหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sørfjorden Fjord ในเมือง Odda ทางตะวันตกของประเทศนอร์เวย์ บนยอดผา นักเดินทางจะได้ชื่นชมทิวทัศน์ของภูมิประเทศแบบเฉพาะที่เรียกกันว่า ฟยอร์ด (Fjord) ซึ่งมีลักษณะเป็นหุบเขาเว้าแหว่งบริเวณปากอ่าว ที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเมื่อกว่าหมื่นปีก่อน ในประเทศนอร์เวย์นั้นมีฟยอร์ดมากมาย แต่ฟายอร์ดแห่งนี้ถือว่าจุดหมายแห่งหนึ่งที่นักปีนเขาอย่างเราๆต้องมาพิชิตให้ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นฟยอร์ดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
         - การเดินทางนั้นเริ่มจากเดินทางไปลงที่ Oslo แล้วนั่งรถ Bus ปรับอากาศต่อเข้าไปยังเมือง Odda ขึ้นรถบัสที่สถานที่รสบัสใจกลางเมือง Oslo ได้เลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง รถบัสจะมาจอดตรงป้ายท่าเรือเลย แล้วก็นั่ง Max taxi ต่อขึ้นไปอีกประมาณ 30 นาที ส่วนราคานั้นอยู่ที่การต่อรองเอา แท็กซี่จะไปส่งถึงเชิงเขาด้านล่าง เรื่องตารางเวลารถบัสและรถ taxi นั้นจะต้องเช็คช่วงเวลาดีๆก่อนไปนะครับตรงป้ายรถบัสจะมีตารางเวลาหรือสอบถามคนแถวนั้นได้ เพราะถ้านอกจากช่วง May-Sep แล้วอาจจะไม่มีรถขึ้นไปถึงเชิงเขาได้เลย ต้องขับรถไปเองเนื่องจากช่วงอื่นนั้นอากาศจะหนาว ทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสนใจขึ้นไปปีนเขากัน ปกตินักปีนเขาจะมานอนพักก่อนที่เชิงเขาคืนนึงก่อนที่จะเริ่มปีนขึ้นไป เพราะฟยอร์ดนี้มีระยะทาง 12 KM ซึ่งใช้เวลาคร่าวประมาณ 12 ชั่วโมงได้แบบไม่เร่งรีบ แล้วก็ไม่ควรลงจากเขาหลัง 4 โมงเย็นเนื่องจากฟ้าจะมืดแล้วจะเดินลงจากเขาจะเกิดอันตรายได้ ฟยอร์ดแห่งนี้ถือว่าเป็นฟยอร์ดที่เสียวที่สุดในนอร์เวย์เลยก็ว่าได้


2. ที่พักนั้น ส่วนมากจะพักที่เชิงเขากัน สามารถหาที่พักได้ตามเวปหรือผ่านทาง airbnb ที่พักมีไม่มาก ราคามีให้เลือกหลากหลาย แต่บางคนก็นำเต้นท์ไปตั้งแคมป์บางยอดฟยอร์fกัน ได้อีกบรรยากาศ แต่ถ้าไปหน้าหนาวก็ควรพกเสื้อไปเยอะๆ เพราะด้านบนจะหนาวมาก แต่ทิวทัศน์นั้นงามมากๆ



3. การเตรียมตัวนั้น ก่อนที่เราจะปีนเขานี้ เราต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะว่าเดินเยอะมากถึง 22 กิโล ไป 11 กิโล กลับอีก 11 กิโล และไม่ใช่เดินทางธรรมดา แต่เป็นการเดินขึ้นและลงเขา ซึ่งใช้แรงมากกว่าเดิม และที่สำคัญคือ พวกเราต้องเตรียมเสบียงอาหาร!! เพราะนอกจากเขตที่พักแล้ว ตลอดทางขึ้นเขาไปจนถึงยอด trolltunga จะไม่มีร้านอาหารหรือร้านขายของอะไรเลยสักร้าน ส่วนน้ำดื่มนั้นสามารถเติมได้ระหว่างทางที่เป็นน้ำตกเล็กๆลงมา แต่ไม่ควรเติมจากแอ่งน้ำเพราะบางที อาจจะมีคนใช้ล้างเท้า ควรจะเติมน้ำจากที่สูงๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเดินไป ควรเตรียมเป้ไปเพื่อใส่เสบียงอาหาร เสื้อกันหนาวด้วย ส่วนด้านบนพอหยุดเดินจะเริ่มหนาว แต่ระหว่างปีนเขาจะมีอาการร้อน และที่สำคัญคือรองเท้า จำเป็นต้องมีปุ่มหรือดอกยาง เพื่อป้องกันไม่ให้ลื่นในระหว่างปีนเขา ถ้าใครยังไม่ชำนาญก็ควรจะมีไม้ค้ำไว้ช่วยด้วยก็จะดีมาก การเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณ 12ชั่วโมงไปกลับ จะมีป้ายบอกทางตลอด ว่าเหลืออีกกี่กิโลเมตร เดินตามป้ายและเดินตามตัว T สีแดงที่ได้ทำไว้เป็นสัญลักษณ์ไว้ตามก้อนหิน ทางขึ้นและทางลงของ Trolltunga นั้นจะเป็นทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นเดินไปก็ต้องคำนวนเวลาเดินกลับด้วยนะครับ




4. ความคุ้มค่า ถ้าใครที่รักในการปีนเขาอยู่แล้วนั้น บอกเลยว่า Trolltunga นั้นจะต้องเป็น 1ใน Destinationแน่นอน เพราะทั้งยากลำบาก และ ความสวยงามนั้นระดับ 10ดาว ทิวทัศน์และบรรยากาศระหว่างทางเดินนั้นคุ้มค่ามาก และเหมาะกับการถ่ายรูปตลอดทาง รวมไปถึงอากาศดีมาก จะมีแค่กิโลเมตรแรก ที่เป็นการขึ้นเขาอยู่ในป่า จะเดินทางลำบากและต้องระมัดระวังหน่อย




5. ประสบการณ์ สำหรับการเดินทางเพื่อไปปีนเขาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างมาก เนื่องจากก่อนวันที่เราจะปีนเขา ฝนตกแล้วมีโอกาสที่จะไม่สามารถปีนเขาได้ แต่โชคก็ยังเข้าข้างเรา วันที่เราจะปีนนั้นแดดเริ่มออก แต่ว่าพื้นดินนั้นยังไม่แห้งดี บางจุดยังเป็นโคลนอยู่ แต่ก็เป็นโอกาสเดียวของเราแล้ว เพราะการเดินทางมานอร์เวย์ครั้งนี้ เราวางแผนทุกอย่างพอดีแบบไม่สามารถเปลี่ยนวันได้เลย เอาไงเอากัน ลุยเลย ซึ่งไม่ค่อยอยากแนะนำให้ปีนตอนพื้นเปียกมากเพราะอันตรายอยู่สมควร โดยเฉพาะกิโลเมตรแรกที่เป็นทางขึ้นและลง ที่พื้นยังไม่แห้งแล้วเป็นโคลน ทำให้เสี่ยงต่อการลื่นมาก รองเท้าที่ผมใช้นั้นเป็นรองเท้าสตั๊สแบบมีปุ่ม ฮ่าๆ ทางที่ดีควรจะนำรองเท้าปีนเขามาโดยเฉพาะ การเดินทางครั้งนี้แค่เราได้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ได้ ก็เหมือนเราสามารถพิชิตเป้าหมาย ความท้าทายได้


วีดีโอแนะนำ